การจัดฟันเป็นการรักษาที่ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวย สบฟันดี และมีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงขึ้น
แต่หลายคนหลังจากจัดฟันรอบแรกผ่านไปแล้วกลับพบว่า ฟันเริ่มเคลื่อน ซ้อนเก หรือสบฟันผิดปกติอีกครั้ง
ทำให้เกิดคำถามว่า "ควรจัดฟันรอบสองดีไหม?"
คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ จะพาคุณไปดูเหตุผล ข้อดี ข้อจำกัด ขั้นตอน และการเตรียมตัวก่อนจัดฟันรอบสอง
เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับตัวเองที่สุด
💡 สาเหตุที่ควร “จัดฟันรอบสอง”
1. ฟันเคลื่อนกลับที่เดิม (Relapse)
หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน หาก ไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำ ฟันจะค่อย ๆ เคลื่อนกลับสู่ตำแหน่งเดิม ทำให้ต้องจัดใหม่อีกครั้งเพื่อให้เรียงตัวสวยงามเหมือนเดิม
2. ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ
คนไข้หลายคนอาจหยุดใส่รีเทนเนอร์ก่อนเวลา หรือทำรีเทนเนอร์หายและไม่ได้ทำใหม่ ส่งผลให้ฟันเคลื่อนตัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีฟันจะเริ่มเบี้ยวหรือซ้อนเกได้อีกครั้ง
3. ฟันคุดดันฟันหน้าให้เก (Wisdom Tooth Pressure)
ฟันคุดที่ยังไม่ถอนออกอาจดันฟันหน้าให้เบียดกันได้โดยเฉพาะฟันล่าง และทำให้ฟันซ้อนแบบที่เคยเกิดขึ้นก่อนจัดฟันกลับมาอีก
4. โครงสร้างใบหน้าและกระดูกเปลี่ยนตามวัย
เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกขากรรไกรอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ฟันเคลื่อนหรือเกิดปัญหาสบฟันผิดปกติ จำเป็นต้องจัดฟันรอบสองเพื่อให้การสบฟันกลับมาดีอีกครั้ง
5. เกิดปัญหาใหม่หลังจัดฟันรอบแรก
เช่น ฟันโยก ฟันห่าง หรือฟันล้มจากการถอนฟัน หรือมีการใส่รากฟันเทียม/ฟันปลอมเพิ่มเติมจนเกิดช่องว่างระหว่างฟัน
6. ต้องการแก้ปัญหาความสวยงาม
บางคนอาจไม่พอใจกับผลลัพธ์การจัดฟันรอบแรก หรือรู้สึกว่ารอยยิ้มยังไม่เป๊ะพอ จึงเลือกจัดฟันอีกครั้งเพื่อความมั่นใจที่มากขึ้น
7. จัดฟันครั้งแรกนานมาแล้ว
เช่น จัดฟันตั้งแต่เด็กหรือวัยรุ่น แล้วไม่ใส่รีเทนเนอร์ต่อเนื่อง พอโตขึ้น ฟันก็เริ่มเคลื่อน ทำให้จำเป็นต้องกลับมาจัดฟันอีกรอบ
8. มีพฤติกรรมทำให้ฟันเคลื่อน
เช่น กัดเล็บ ดูดนิ้ว นอนกัดฟัน หรือใช้ลิ้นดันฟัน ก็เป็นสาเหตุทำให้ฟันที่เคยเรียงตัวดีแล้ว เคลื่อนไปจากตำแหน่งได้
9. ฟันสบผิดปกติ มีผลต่อการบดเคี้ยว
บางกรณีที่ฟันสบไม่พอดี อาจทำให้เคี้ยวอาหารลำบาก เกิดอาการปวดกราม หรืออ้าปากไม่สุด จำเป็นต้องจัดฟันใหม่เพื่อปรับโครงสร้างการสบฟัน
10. เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
หากปล่อยให้ฟันล้มหรือเคลื่อนมากขึ้น อาจต้องใช้เวลาจัดฟันนานและเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าในอนาคต การจัดฟันรอบสองตั้งแต่ระยะแรกจึงช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงิน
👥 ใครบ้างที่ ควรจัดฟันรอบสอง?
1. คนที่ไม่ใส่รีเทนเนอร์สม่ำเสมอหลังจัดฟันรอบแรก
ฟันที่เคยเรียงตัวดีอาจกลับมาเบี้ยวหรือซ้อนเกได้ ถ้าไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ต่อเนื่อง
📌 เป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการจัดฟันรอบสอง!
2. คนที่จัดฟันตั้งแต่วัยเด็ก แต่ตอนโตฟันเปลี่ยน
แม้จะจัดฟันสำเร็จตอนวัยรุ่น แต่พอโตขึ้น โครงสร้างกระดูกใบหน้าและขากรรไกรเปลี่ยน ทำให้ฟันเคลื่อนผิดตำแหน่งอีกครั้ง
3. คนที่ฟันคุดดันฟันหน้าให้เก
ฟันคุดที่ไม่ถูกถอนออกหลังจัดฟัน อาจเบียดฟันหน้าจนซ้อนกันอีกครั้ง
4. คนที่เคยถอนฟันหรือทำรากฟันเทียมเพิ่มเติม
การถอนฟัน หรือทำครอบฟันใหม่โดยไม่วางแผนร่วมกับการจัดฟัน อาจทำให้ฟันข้างเคียงล้มเข้าช่องว่างจนฟันสบผิดปกติ
5. คนที่ฟันล้ม ฟันห่าง หรือสบฟันผิดปกติ
เช่น ฟันหน้าห่างออก ฟันหลังสบไม่สนิท หรือเคี้ยวอาหารไม่สะดวก
📌 ปล่อยไว้นานอาจทำให้กระดูกขากรรไกรเสื่อมก่อนวัย
6. คนที่เคยจัดฟันมาแล้วไม่พอใจผลลัพธ์
เช่น ฟันไม่ตรงแบบที่หวัง หรือยิ้มแล้วยังดูไม่มั่นใจ จึงอยากแก้ไขให้ดีกว่าเดิม
7. คนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทำให้ฟันเคลื่อน
เช่น ดันลิ้น กัดเล็บ นอนกัดฟัน หรือชอบใช้ฟันหน้าเปิดของแข็ง → ฟันอาจเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมโดยไม่รู้ตัว
8. คนที่มีปัญหาขากรรไกรหรือรูปหน้า
เช่น คางยื่น ฟันล่างคร่อมฟันบน (underbite) หรือฟันบนยื่นมาก (overjet) → จำเป็นต้องจัดฟันร่วมกับการปรับขากรรไกร
9. คนที่ต้องการความมั่นใจในบุคลิกภาพมากขึ้น
โดยเฉพาะในอาชีพที่ต้องใช้บุคลิกภาพ เช่น นักแสดง พิธีกร เซลล์ พนักงานต้อนรับ ฯลฯ → จัดฟันรอบสองเพื่อยิ้มสวย มั่นใจเต็มที่
10. คนที่กำลังวางแผนทำรากฟันเทียมหรือฟันปลอมถาวร
หากฟันเดิมล้ม ไม่ตรง หรือสบฟันไม่ดี จะส่งผลต่อการวางรากเทียมหรือสะพานฟันในอนาคต
✅ ข้อดีของการ “จัดฟันรอบสอง”
1. แก้ไขฟันที่เคลื่อนกลับผิดตำแหน่ง
ฟันที่เคยเรียงตัวดีอาจเบี้ยวหรือซ้อนเกใหม่ได้จากการไม่ใส่รีเทนเนอร์ หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
💬 การจัดฟันรอบสองช่วย ดึงฟันกลับเข้าที่เดิม อย่างเป็นระบบอีกครั้ง
2. ฟื้นฟูรอยยิ้มให้กลับมาสวยมั่นใจ
ฟันที่เรียงตัวดี ช่วยให้คุณยิ้มได้อย่างมั่นใจทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน
📸 เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องพบปะผู้คนบ่อย เช่น อินฟลูเอนเซอร์, เซลล์, พิธีกร, ผู้บริหาร
3. แก้ไขปัญหาการสบฟัน
เช่น ฟันสบไม่พอดี ฟันล่างคร่อมฟันบน (underbite), ฟันบนยื่น (overjet), ฟันห่าง
🦷 การสบฟันที่ดีช่วยให้เคี้ยวอาหารได้สะดวก ลดภาระของขากรรไกร
4. ลดความเสี่ยงฟันผุและโรคเหงือก
ฟันที่ซ้อนหรือเบี้ยวทำความสะอาดได้ยาก → เสี่ยงฟันผุและหินปูนสะสม
✨ ฟันเรียงตัวดีช่วยให้แปรงฟันง่ายขึ้น ลดโอกาสเกิดโรคเหงือกในอนาคต
5. ลดอาการปวดกราม / ปวดศีรษะเรื้อรัง
ฟันสบผิดตำแหน่งอาจทำให้ขากรรไกรทำงานหนัก → เกิดอาการปวดบริเวณกราม ขมับ หรือคอ
🔁 การจัดฟันรอบสองช่วยปรับการสบฟันให้สมดุล ลดอาการเจ็บแบบไม่ทราบสาเหตุ
6. เตรียมช่องปากให้พร้อมสำหรับรากเทียมหรือครอบฟัน
หากต้องทำรากฟันเทียม ฟันปลอม หรือสะพานฟันในอนาคต การมีแนวฟันที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและอยู่ได้นาน
7. แก้ไขข้อผิดพลาดจากการจัดฟันรอบแรก
บางคนเคยจัดฟันแล้วแต่ผลลัพธ์ไม่ตรงกับที่คาดไว้ เช่น ฟันยังเอียง หรือรอยยิ้มยังไม่สมส่วน
🔧 การจัดรอบสองช่วยปรับแต่งให้ “เป๊ะ” ขึ้นได้
8. มีเครื่องมือทันสมัยให้เลือกมากขึ้น
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีจัดฟันใหม่ ๆ เช่น Fastbraces, Invisalign, Damon ที่ช่วยให้จัดฟันได้เร็วขึ้น เจ็บน้อย และสะดวกกว่าเดิม
9. ใช้เวลาน้อยกว่าการจัดฟันรอบแรก (ในบางกรณี)
เพราะฟันเคลื่อนแค่บางซี่ หรือเป็นการแก้เฉพาะจุด → ระยะเวลาจัดฟันรอบสองอาจสั้นกว่าเดิมมาก เช่น 6 เดือน – 1 ปี
10. ยิ่งแก้เร็ว ยิ่งประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
หากปล่อยให้ฟันล้มมากขึ้น อาจต้องใช้เวลาจัดนานขึ้นและเสียเงินมากขึ้น
💸 จัดฟันรอบสองตั้งแต่ยังเบี้ยวน้อย ๆ จึงเป็นทางเลือกที่ “คุ้มค่าและฉลาด”
⚠️ ข้อจำกัดของการ “จัดฟันรอบสอง”
1. กระดูกและรากฟันอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม
การจัดฟันในวัยผู้ใหญ่หรือหลังจากจัดฟันมาแล้วครั้งหนึ่ง
อาจทำให้ กระดูกรองรับฟันบางลง หรือรากฟันสั้นลง → เสี่ยงฟันโยกได้ง่ายหากดึงแรงมากเกินไป
2. ระยะเวลาในการเคลื่อนฟันอาจช้ากว่า
โดยเฉพาะถ้าอายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะตอบสนองต่อแรงดึงช้าลง
📌 ต้องใช้ความอดทน และการควบคุมอย่างแม่นยำจากทันตแพทย์
3. พื้นที่ในช่องปากอาจจำกัด
หากมีการถอนฟัน / ครอบฟัน / รากเทียมในตำแหน่งสำคัญ
จะทำให้พื้นที่สำหรับเคลื่อนฟันมีจำกัด → ทันตแพทย์ต้องวางแผนเฉพาะบุคคลอย่างละเอียด
4. เสี่ยงต่อภาวะรากฟันละลาย (Root Resorption)
เกิดจากแรงที่ใช้ดึงฟันในผู้ที่เคยจัดฟันมาก่อน
หากรากฟันมีขนาดสั้นหรือเคยถูกดึงมากแล้ว → มีโอกาสละลายหรือหดตัวเพิ่ม
5. ต้องระวังมากเรื่องการดูแลและการทำความสะอาด
เพราะรอบสองคือการ "จัดบนพื้นฐานที่เปลี่ยนไปแล้ว"
ช่องว่างระหว่างฟันอาจยากต่อการทำความสะอาดกว่าเดิม → เสี่ยงฟันผุหรือเหงือกอักเสบได้ง่าย
6. ค่าใช้จ่ายอาจไม่ต่างจากการจัดฟันรอบแรก
แม้หลายคนคิดว่าแค่จัดแก้เล็กน้อย ค่าใช้จ่ายควรจะถูก
แต่ความซับซ้อนในการวางแผนและการควบคุมแรงดึง อาจทำให้ราคายังอยู่ในช่วง 20,000 – 60,000 บาท หรือมากกว่า
7. ต้องมีวินัยมากกว่าเดิม
เพราะการจัดฟันรอบสองคือการ “แก้ไขสิ่งที่เคยพลาด”
หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเดิม เช่น ไม่ใส่รีเทนเนอร์ กัดเล็บ ดันลิ้น → ฟันจะกลับมาเบี้ยวอีกครั้งแน่นอน
8. ผลลัพธ์อาจไม่สมบูรณ์ 100% ในบางราย
โดยเฉพาะกรณีที่มีข้อจำกัดด้านโครงสร้างกระดูกหรือรากฟันที่ถูกใช้มาแล้วจากรอบแรก
ทันตแพทย์อาจทำได้แค่ ปรับให้ดีขึ้น ไม่ใช่สมบูรณ์แบบเหมือนจัดครั้งแรก
9. อาจไม่สามารถใช้เครื่องมือบางประเภทได้
เช่น Invisalign หรือ Clear aligner ในบางรายที่ต้องการแรงดึงมาก
อาจต้องใช้เครื่องมือจัดฟันโลหะแบบดั้งเดิมเพื่อควบคุมฟันได้ดีกว่า
10. ต้องตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด
การจัดฟันรอบสองต้องพบทันตแพทย์สม่ำเสมอมากขึ้น
เพื่อประเมินว่ารากฟันและกระดูกยังตอบสนองดีหรือไม่
🎯 การจัดฟันรอบสอง “สามารถทำได้” และมีผลลัพธ์ที่ดีในหลายกรณี
แต่ต้อง เข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้ล่วงหน้า เพื่อคาดหวังผลลัพธ์อย่างเหมาะสม และวางแผนกับทันตแพทย์ให้ละเอียดที่สุด
🧰 เตรียมตัวก่อนจัดฟันรอบสอง
เตรียมใจให้พร้อม → รอบนี้อาจไม่ใช้เวลานานเท่ารอบแรก แต่ต้องมีวินัยมากกว่าเดิม
นัดพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ → ถ่าย X-ray, พิมพ์ฟัน, ถ่ายรูป และพูดคุยถึงประวัติการจัดฟันรอบแรก
ตรวจสุขภาพช่องปาก → ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟันคุด รักษาเหงือก
วางแผนการรักษา → วิเคราะห์สาเหตุฟันเคลื่อน เลือกประเภทเครื่องมือให้เหมาะกับปัญหา
เตรียมงบประมาณ → ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 20,000 – 60,000+ บาท แล้วแต่แผนการรักษา
เลือกรูปแบบรีเทนเนอร์ล่วงหน้า → แบบใส แบบลวด หรือแบบติดแน่นเพื่อป้องกันฟันล้มซ้ำ
การจัดฟันรอบสอง (Orthodontic Retreatment) อาจมีขั้นตอนที่คล้ายกับรอบแรก แต่จะเน้นการ วิเคราะห์ปัญหาเก่า และ วางแผนเฉพาะบุคคล มากกว่า โดยทันตแพทย์จะคำนึงถึงสภาพช่องปากที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยอีกครั้งอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
🦷 ขั้นตอนการจัดฟันรอบสองที่คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ (Step by Step)
✅ ขั้นที่ 1: ตรวจประเมินสภาพช่องปากและประวัติการจัดฟันเดิม
- ซักประวัติการจัดฟันรอบแรก เช่น จัดที่ไหน ใช้เครื่องมืออะไร ใส่รีเทนเนอร์นานแค่ไหน
- ตรวจสภาพฟัน เหงือก การสบฟัน และตำแหน่งที่ฟันเคลื่อน
- ถ่ายภาพ X-ray เพื่อดูรากฟัน กระดูก และฟันคุด
- พิมพ์ปาก (Dental Impression) และถ่ายรูปประกอบการวางแผน
✅ ขั้นที่ 2: วิเคราะห์และวางแผนการรักษา
ทันตแพทย์จะวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา เช่น ไม่ใส่รีเทนเนอร์, ฟันคุดดัน, กระดูกเปลี่ยน
เลือกแผนการจัดฟันที่เหมาะสม เช่น:
- จัดฟันแบบโลหะ
- Fastbraces (จัดฟันเร็ว)
- Clear Aligner จัดฟันใส เช่น Smartee , Kase aligner
✅ ขั้นที่ 3: เตรียมช่องปากก่อนเริ่มจัด
- ขูดหินปูน ทำความสะอาดลึก
- อุดฟันผุ / ถอนฟันคุด (ถ้ามี)
- เช็กฟันที่เคยครอบหรือทำรากเทียม ว่าต้องจัดตำแหน่งร่วมด้วยหรือไม่
✅ ขั้นที่ 4: ติดเครื่องมือจัดฟัน
- แบบโลหะหรือแบบFastbraces→ ติด Brackets บนผิวฟัน
- เริ่มดึงฟันตามแผนการรักษา
✅ ขั้นที่ 5: นัดติดตามผลทุก 1–2 เดือน
- ทันตแพทย์จะปรับแรงดึง เปลี่ยนลวด
- ประเมินผลการเคลื่อนฟันและแก้ไขตามความจำเป็น
- แนะนำเรื่องการดูแลฟันและอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
✅ ขั้นที่ 6: ถอดเครื่องมือเมื่อฟันเข้าที่แล้ว
- ทันตแพทย์จะตรวจการสบฟันให้แม่นยำก่อนถอด
- อาจมีการเก็บภาพ “ก่อน-หลัง” จัดฟันไว้เปรียบเทียบ
✅ ขั้นที่ 7: ใส่รีเทนเนอร์ทันทีหลังถอดเครื่องมือ
- เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับอีก
- เลือกใช้รีเทนเนอร์แบบใส แบบลวด หรือแบบติดแน่นด้านใน (Fixed Retainer)
- แนะนำให้ใส่ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 1–2 ปี หรือใส่ทุกคืนแบบต่อเนื่องตลอดชีวิต (ในบางราย)
📅 ระยะเวลาโดยประมาณ
จัดฟันรอบสองมักใช้เวลาสั้นกว่ารอบแรก
โดยเฉลี่ย 6 เดือน – 1.5 ปี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา
🧠 เคล็ดลับ: ทำให้จัดฟันรอบสองเห็นผลเร็วและปลอดภัย
- เลือกคลินิกที่มีประสบการณ์จัดฟันรอบสอง
- ใส่ใจในการดูแลช่องปากมากกว่ารอบแรก
- ปรับพฤติกรรมเดิมที่ทำให้ฟันเคลื่อน เช่น เลิกดันลิ้น เลิกกัดเล็บ
- ห้ามลืมใส่รีเทนเนอร์อีกเด็ดขาด!
📍 จัดฟันรอบสองที่ไหนดี?
การเลือกคลินิกสำหรับจัดฟันรอบสองควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ ประสบการณ์ด้านรีทรีตเมนต์ (Retreatment) เครื่องมือที่ทันสมัย และการบริการหลังการรักษา
หากคุณอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และกำลังมองหาคลินิกที่น่าเชื่อถือ
คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ คือหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยจุดเด่น:
- ทีมทันตแพทย์เฉพาะทางด้านจัดฟันมากประสบการณ์
- มีเครื่องมือจัดฟันหลากหลาย เช่น Fastbraces จัดฟันโลหะ จัดฟันใส Smartee , Kase aligner
- ให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนเริ่มการรักษา
- ระบบติดตามผลต่อเนื่อง พร้อมรีเทนเนอร์คุณภาพ
- ผ่อนชำระได้ เริ่มต้นเบา ๆ สำหรับนักเรียน นักศึกษา
💼 สรุป: จัดฟันรอบสองดีไหม?
ถ้าคุณมีปัญหาฟันเคลื่อน สบฟันผิด หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์เดิม
การจัดฟันรอบสองคือทางเลือกที่เหมาะสมและคุ้มค่าในระยะยาว
— โดยเฉพาะถ้าคุณมีวินัยในการดูแลช่องปากมากขึ้นกว่าเดิม
อย่าลังเลที่จะปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ตรงกับปัญหาของคุณ
และที่คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี
พร้อมตัวเลือกเครื่องมือจัดฟันที่หลากหลาย ครบ จบในที่เดียว
📞 สนใจติดต่อปรึกษาฟรีได้ที่ โทร : 063-343-6156
📲 จองคิวผ่าน LINE banfunsuay ได้เลยตอนนี้:
แชท : m.me/Banfunsuayclinic
📍 พิกัด: ช้างม่อย เชียงใหม่ ดูแผนที่คลิก
⏰ เปิดบริการทุกวัน 10.00–19.00 น. ยกเว้นวันเสาร์
โทร : 063-343-6156
แชท : m.me/Banfunsuayclinic
เวปไซต์ : https://banfunsuay.com/
Instagram : https://www.instagram.com/ban_fun_suay/
เปิดวันอาทิตย์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่ 10.00-19.30 น. (หยุดทุกวันเสาร์)
แผนที่ : https://g.page/Banfunsuay
หมายเหตุ :
อัตราค่ารักษาอื่น ๆ ท่านสามารถโทรสอบถามได้จากทางคลินิก
อัตราค่ารักษาดังกล่าวเป็นการประเมินในเบื้องต้น
ค่าใช้จ่ายจริงทันตแพทย์จะเป็นผู้แจ้งให้ท่านทราบหลังจากทำการตรวจ ปรึกษาและวางแผนรักษาแล้ว
ราคานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า