ฟอกสีฟัน คืออะไร? คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่
ฟอกสีฟันคืออะไร?
ฟอกสีฟัน (Teeth Whitening) เป็นกระบวนการที่ช่วยทำให้ฟันของคุณขาวขึ้นโดยการใช้สารฟอกสี เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) สารเหล่านี้จะซึมเข้าสู่ชั้นเคลือบฟันและทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของคราบสีที่สะสมอยู่ ทำให้ฟันกลับมาขาวขึ้น
ทำไมต้องฟอกสีฟัน?
หลายคนเลือกฟอกสีฟันเพื่อให้รอยยิ้มดูสดใสขึ้นและเพิ่มความมั่นใจ โดยเฉพาะในกรณีที่ฟันมีสีเหลืองหรือหมองคล้ำจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น
✅ การดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง และน้ำอัดลม
✅ การสูบบุหรี่
✅ คราบสีที่เกิดจากยา เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด
✅ อายุที่มากขึ้น ทำให้เคลือบฟันบางลง
✅ พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีสีเข้ม
ฟอกสีฟันที่คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ ดีอย่างไร?
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ฟอกสีฟันที่ปลอดภัย คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ ให้บริการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ขาวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ข้อดีของการฟอกสีฟันที่คลินิก
✔️ ใช้สารฟอกสีฟันที่ผ่านมาตรฐานและปลอดภัย
✔️ ฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ ลดความเสี่ยงของอาการระคายเคือง
✔️ มีการป้องกันเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปากก่อนทำ
✔️ ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าการใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้าน
✔️ คำแนะนำในการดูแลฟันหลังฟอกสี
ฟอกสีฟันทำให้ฟันขาวจริงไหม?
✅ ฟอกสีฟันช่วยให้ฟันขาวขึ้นจริง!
การฟอกสีฟันเป็นกระบวนการที่สามารถช่วยให้ฟันของคุณขาวขึ้นได้จริง โดยใช้สารฟอกสี เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ซึ่งทำหน้าที่ทำลายโมเลกุลของคราบสีที่สะสมอยู่ในชั้นเคลือบฟัน ทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ระดับความขาวของฟันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- สีฟันเดิมของคุณ (หากฟันมีสีเหลืองมาก อาจต้องฟอกหลายครั้ง)
- ชนิดของสารฟอกสีฟันที่ใช้
- ระยะเวลาการฟอกสี
- พฤติกรรมการรับประทานอาหารหลังฟอกสีฟัน
📌 ฟอกสีฟันแล้วขาวได้แค่ไหน?
ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไปสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ 1-3 ระดับสี หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของฟันและการตอบสนองต่อสารฟอกสี
ทำฟอกสีฟันครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง?
🔹 1. ฟอกสีฟันที่คลินิกดีกว่าฟอกเองที่บ้าน
✅ การฟอกสีฟันที่คลินิก ให้ผลลัพธ์เร็วและปลอดภัยกว่า เนื่องจากใช้สารฟอกสีความเข้มข้นสูง และมีทันตแพทย์ควบคุมการรักษา
✅ การฟอกสีฟันที่บ้านอาจใช้เวลานานกว่า และหากทำไม่ถูกต้อง อาจเกิดอาการเสียวฟันหรือเหงือกอักเสบ
🔹 2. อาจมีอาการเสียวฟันหลังทำ
บางคนอาจรู้สึกเสียวฟันหลังจากฟอกสีฟัน โดยเฉพาะผู้ที่มีฟันไวต่อความรู้สึก อาการนี้มักจะเป็นเพียงชั่วคราวและหายไปภายใน 1-3 วัน
🔹 3. สีฟันอาจไม่ขาวเท่ากันทุกซี่
หากคุณมีฟันที่ได้รับการอุด ครอบฟัน หรือเคลือบผิวฟัน (วีเนียร์) สีของวัสดุเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ฟันบางซี่อาจมีสีแตกต่างกัน
🔹 4. ผลลัพธ์ไม่ได้ถาวร
ฟันอาจกลับมาเปลี่ยนสีได้หากยังรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสี เช่น ชา กาแฟ หรือสูบบุหรี่ ควรดูแลรักษาหลังการฟอกสีฟันเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
🔹 5. ควรดูแลฟันให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ
แนะนำให้ ขูดหินปูนและขัดฟันก่อน การฟอกสีฟันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
❌ ใครบ้างที่ไม่ควรฟอกสีฟัน?
แม้ว่าการฟอกสีฟันจะเป็นวิธีที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับทุกคน กลุ่มคนต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยงการฟอกสีฟัน หรือปรึกษาทันตแพทย์ก่อนตัดสินใจทำ
1️⃣ ผู้ที่มีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือโรคเหงือก
🔹 หากคุณมีฟันผุหรือเหงือกอักเสบ ควรรักษาปัญหาช่องปากให้เรียบร้อยก่อน เพราะสารฟอกสีอาจทำให้ฟันเสียวมากขึ้นและทำให้เหงือกระคายเคืองได้
✅ ทางออก: รักษาฟันผุและเหงือกให้แข็งแรงก่อน แล้วค่อยฟอกสีฟัน
2️⃣ ผู้ที่มีฟันไวต่อความรู้สึกมาก
🔹 คนที่มีอาการเสียวฟันง่าย หรือฟันบางจากการสึกกร่อน อาจรู้สึกเสียวฟันมากขึ้นหลังการฟอกสีฟัน
✅ ทางออก: ปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับยาสีฟันลดอาการเสียวฟันหรือการใช้สารเคลือบป้องกันฟันก่อนฟอกสี
3️⃣ ผู้ที่มีครอบฟัน วีเนียร์ หรือวัสดุอุดสีเหมือนฟัน
🔹 สารฟอกสีฟัน ไม่สามารถเปลี่ยนสีของวัสดุทางทันตกรรม เช่น
✔️ ครอบฟัน
✔️ วีเนียร์
✔️ วัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน
💡 หากคุณมีครอบฟันหรืออุดฟันหน้ามาก่อน ฟันธรรมชาติอาจขาวขึ้น แต่สีของวัสดุเดิมจะไม่เปลี่ยน ทำให้สีฟันดูไม่สม่ำเสมอ
✅ ทางออก: ปรึกษาทันตแพทย์เรื่องการเปลี่ยนวัสดุอุดฟันหรือครอบฟันหลังการฟอกสีฟัน
4️⃣ เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี
🔹 เด็กและวัยรุ่นยังมีโครงสร้างฟันที่ไม่สมบูรณ์ดี เคลือบฟันบางกว่าผู้ใหญ่ ทำให้สารฟอกสีอาจแทรกซึมลึกและทำให้เกิดอาการเสียวฟันมากกว่าปกติ
✅ ทางออก: รอจนกว่าจะอายุ 16 ปีขึ้นไป หรือให้ทันตแพทย์ตรวจสภาพฟันก่อน
5️⃣ หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
🔹 ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการฟอกสีฟันส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือในน้ำนมแม่หรือไม่
✅ ทางออก: ควรรอจนกว่าคลอดและหยุดให้นมบุตรก่อนทำฟอกสีฟันเพื่อความปลอดภัย
6️⃣ ผู้ที่แพ้สารฟอกสีฟัน
🔹 หากเคยมีประวัติแพ้ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ ควรหลีกเลี่ยงการฟอกสีฟัน เพราะอาจเกิดการระคายเคืองในช่องปากหรืออาการแพ้รุนแรงได้
✅ ทางออก: ปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกอื่น เช่น การขัดฟันขาวแทนการฟอกสีฟัน
7️⃣ ผู้ที่มีฟันสีคล้ำจากภายในฟัน
🔹 ฟันที่มีสีเทาหรือสีน้ำตาลเข้มจากสาเหตุภายใน เช่น
✔️ การใช้ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีน (Tetracycline) ตั้งแต่เด็ก
✔️ การได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป (ฟันตกกระ)
✔️ ฟันตายจากอุบัติเหตุ
💡 ฟันที่คล้ำจากภายในมักไม่ตอบสนองต่อสารฟอกสีฟัน
✅ ทางออก: ใช้วิธีอื่นแทน เช่น การทำวีเนียร์ (Veneers) หรือครอบฟัน
8️⃣ ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบถาวร
🔹 การฟอกสีฟัน ไม่ใช่การทำให้ฟันขาวถาวร สีฟันจะค่อยๆ หมองลงตามเวลา โดยเฉพาะถ้ายังดื่มชา กาแฟ หรือสูบบุหรี่
✅ ทางออก: หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสี และเข้ารับการฟอกสีฟันซ้ำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หรือท่านอาจพิจารณาทำ เซรามิก วีเนียร์ จะได้ฟันขาวแบบธรรมชาติยาวนานที่สุดค่ะ
⏳ ฟอกสีฟันใช้เวลานานไหม และอยู่ได้นานแค่ไหน?
🔹 ฟอกสีฟันใช้เวลานานแค่ไหน?
ระยะเวลาในการฟอกสีฟันขึ้นอยู่กับ วิธีที่ใช้ โดยทั่วไป มี 2 วิธีหลัก ได้แก่
✅ 1. ฟอกสีฟันที่คลินิก
🕒 ใช้เวลา ประมาณ 45-60 นาที
📌 วิธีนี้ใช้สารฟอกสีที่มีความเข้มข้นสูง และใช้แสง LED หรือเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการทำงานของสารฟอกสี ให้ผลลัพธ์เร็วและชัดเจนในครั้งเดียว
✅ 2. ฟอกสีฟันที่บ้าน (Home Whitening Kit)
🕒 ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน
📌 เป็นการใช้ถาดฟอกสีฟันที่ทันตแพทย์จัดทำให้เฉพาะบุคคล ทาเจลฟอกสีแล้วใส่ไว้วันละ 30-60 นาที หรือข้ามคืน ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของทันตแพทย์
🦷 ฟอกสีฟันอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟัน ไม่ถาวร แต่สามารถอยู่ได้นาน 6 เดือน - 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น
✅ การดูแลสุขภาพช่องปาก – แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ
✅ พฤติกรรมการกิน – หลีกเลี่ยงชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลม ซอสมะเขือเทศ
✅ การสูบบุหรี่ – นิโคตินทำให้ฟันคล้ำเร็วขึ้น
✅ การเข้าพบทันตแพทย์สม่ำเสมอ – ขูดหินปูนและขัดฟันช่วยลดการสะสมของคราบ
🎯 เคล็ดลับยืดอายุผลลัพธ์ฟอกสีฟัน
✔️ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสี
✔️ ใช้หลอดดูดเมื่อต้องดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม
✔️ แปรงฟันด้วยยาสีฟันสำหรับฟันขาว
✔️ ใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้านเป็นครั้งคราว (ตามคำแนะนำของทันตแพทย์)
🦷 การเตรียมตัวก่อนฟอกสีฟัน
หากคุณกำลังวางแผน ฟอกสีฟันที่คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ลดความเสี่ยงจากอาการข้างเคียง และช่วยให้ฟันขาวได้นานขึ้น
✅ 1. ตรวจสุขภาพฟันและเหงือกก่อนฟอกสีฟัน
💡 ควรให้ทันตแพทย์ตรวจสภาพฟันและเหงือกก่อนว่ามีปัญหาหรือไม่ เช่น
✔️ ฟันผุ
✔️ เหงือกอักเสบ
✔️ หินปูนสะสมมาก
📌 หากมีปัญหาเหล่านี้ ควรรักษาก่อน เพราะการฟอกสีฟันอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันมากขึ้น หรือทำให้เหงือกระคายเคือง
✅ 2. ขูดหินปูนและขัดฟันให้สะอาด
🦷 คราบหินปูนและคราบจุลินทรีย์อาจทำให้สารฟอกสีทำงานได้ไม่เต็มที่
📌 แนะนำให้ขูดหินปูนและขัดฟันก่อนฟอกสีฟันประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้สารฟอกสีซึมเข้าสู่ฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ 3. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสี
🥤 ก่อนฟอกสีฟัน ควรลดการบริโภค
❌ ชา
❌ กาแฟ
❌ ไวน์แดง
❌ น้ำอัดลม
❌ อาหารที่มีสีเข้ม เช่น ซอสถั่วเหลือง ซอสมะเขือเทศ
📌 เพื่อป้องกันการสะสมของคราบสีบนฟัน อย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนฟอกสีฟัน
✅ 4. ใช้ยาสีฟันสำหรับฟันไวต่อความรู้สึก (ถ้าจำเป็น)
💡 หากคุณเป็นคนที่มีฟันไวต่อความรู้สึก ควรเริ่มใช้ ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน ล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเสียวฟันหลังฟอกสี
📌 ตัวอย่างยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน:
✔️ Sensodyne
✔️ Colgate Sensitive Pro-Relief
✔️ Oral-B Sensitive
✅ 5. งดสูบบุหรี่
🚬 นิโคตินในบุหรี่ทำให้ฟันคล้ำเร็วขึ้น และอาจลดประสิทธิภาพของการฟอกสีฟัน
📌 ควรงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังฟอกสีฟันอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
✅ 6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
💧 การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษและช่วยให้สุขภาพช่องปากแข็งแรงขึ้น
😴 การพักผ่อนให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นหากเกิดอาการเสียวฟันหลังฟอกสี
✅ 7. ทำความสะอาดฟันให้ดีในวันนัดฟอกสีฟัน
🦷 ก่อนเข้าคลินิกในวันฟอกสีฟัน ควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้สะอาด แต่ไม่ต้องใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้มข้นมากเกินไป เพราะอาจลดประสิทธิภาพของสารฟอกสี
🦷 ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่
หากคุณกำลังสนใจฟอกสีฟันที่ คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ นี่คือขั้นตอนที่คุณจะได้รับในการฟอกสีฟันแบบมืออาชีพ ปลอดภัย ได้ผลจริง และไม่ทำลายเคลือบฟัน
🔹 1. ตรวจสุขภาพฟันก่อนฟอกสีฟัน
✅ ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพช่องปากของคุณก่อนว่า ฟันและเหงือกแข็งแรงพอสำหรับการฟอกสีฟันหรือไม่
✔️ ตรวจดูว่ามีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ หรือไม่
✔️ หากพบปัญหา เช่น ฟันผุ หรือหินปูนสะสม จำเป็นต้องรักษาหรือขูดหินปูนก่อน
✅ ทันตแพทย์จะทำการถ่ายรูปฟันของคุณก่อนทำและหลังทำการฟอกสีฟัน เพื่อเปรียบเทียบสีฟันก่อนและหลังการฟอกสีฟัน เพื่อให้เห็นถึงสีฟันที่แตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังฟอกสีฟัน
🔹 2. ขูดหินปูนและขัดฟันให้สะอาด
✅ ทันตแพทย์จะทำความสะอาดฟัน ขูดหินปูน และขัดฟันเพื่อกำจัดคราบสะสม ให้สารฟอกสีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
🔹 3. ปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อรอบฟัน
✅ ทันตแพทย์จะใช้ เจลกันเหงือก (Gingival Barrier) เคลือบที่เหงือก เพื่อป้องกันสารฟอกสีระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อน
✔️ บางคลินิกอาจใช้ที่ครอบปากช่วยให้สารฟอกสีไม่สัมผัสกับเหงือก
🔹 4. ทาสารฟอกสีฟัน
✅ ทันตแพทย์จะทา เจลฟอกสีฟันที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ลงบนฟันของคุณ
🔹 5. ฉายแสง LED Cool light หรือเลเซอร์เพื่อกระตุ้นสารฟอกสี
✅ หลังจากทาเจลฟอกสีฟันแล้ว ทันตแพทย์จะใช้ แสง LED หรือแสงเลเซอร์ฉายไปที่ฟัน เพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาของสารฟอกสีให้ทำงานได้เร็วขึ้น
📌 กระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ต่อรอบ
✔️ บางคลินิกอาจทำ 2-3 รอบ (รวมประมาณ 45-60 นาที) ขึ้นอยู่กับระดับความขาวที่ต้องการ
🔹 6. เช็ดสารฟอกสีออกและตรวจสอบผลลัพธ์
✅ เมื่อครบเวลาที่กำหนด ทันตแพทย์จะเช็ดสารฟอกสีออกและประเมินผล ดูว่าสีฟันขาวขึ้นตามที่ต้องการหรือไม่
✔️ หากต้องการให้ขาวขึ้นอีก อาจทำซ้ำได้ในครั้งถัดไป
🔹 7. ทำความสะอาดฟันและให้คำแนะนำหลังทำ
✅ ทันตแพทย์จะล้างสารฟอกสีออกจากฟันและตรวจสอบสุขภาพช่องปากของคุณ
✔️ คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับ วิธีดูแลฟันหลังฟอกสีฟัน เช่น หลีกเลี่ยงชา กาแฟ และอาหารสีเข้มเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
⏳ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 45-60 นาที
🔹 เห็นผลทันทีหลังทำ ฟันขาวขึ้น 1-3 ระดับ ขึ้นอยู่กับสีฟันเดิมของคุณ
🦷 การดูแลหลังการฟอกสีฟัน
หลังจากฟอกสีฟันแล้ว ฟันของคุณจะไวต่อคราบสีและอาการเสียวฟันมากกว่าปกติในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
✅ 1. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันคล้ำ (48 ชั่วโมงแรกสำคัญมาก!)
หลังฟอกสีฟัน เคลือบฟันจะเปิดรับสีได้ง่ายขึ้นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หากรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม อาจทำให้ฟันคล้ำเร็วขึ้น
🚫 งดอาหารและเครื่องดื่มต่อไปนี้:
❌ กาแฟ, ชา, ไวน์แดง, น้ำอัดลม
❌ น้ำผลไม้สีเข้ม เช่น น้ำเบอร์รี่ น้ำองุ่น
❌ อาหารที่มีสีเข้ม เช่น ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊ว ดาร์กช็อกโกแลต แกงกะหรี่
❌ ผลไม้สีเข้ม เช่น บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ ทับทิม
❌ อาหารที่มีกรดสูง เช่น น้ำมะนาว ส้ม โซดา
✅ แนะนำให้ทานอาหารที่ไม่มีสี เช่น
✔️ ข้าว, ไข่ขาว, ขนมปังขาว, เนื้อปลา, นม, น้ำเปล่า
✅ 2. งดสูบบุหรี่ และเคี้ยวหมากฝรั่งสีเข้ม
🚬 นิโคตินในบุหรี่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ฟันเหลืองเร็วขึ้น ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 48 ชั่วโมงแรก หรือ ถ้าเลิกได้จะช่วยให้ฟันขาวนานขึ้น
✅ 3. หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัดและเย็นจัด
หลังฟอกสีฟัน อาจมีอาการ เสียวฟัน เนื่องจากสารฟอกสีทำให้เคลือบฟันไวต่อความรู้สึกชั่วคราว
📌 ควรหลีกเลี่ยง
❌ อาหารและเครื่องดื่มร้อนจัด เช่น ซุปร้อน กาแฟร้อน
❌ เครื่องดื่มเย็นจัด เช่น น้ำแข็ง น้ำอัดลมเย็นๆ
✅ ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจะดีที่สุด
✅ 4. ใช้ยาสีฟันสำหรับฟันไวต่อความรู้สึก
🦷 หากรู้สึกเสียวฟัน ควรใช้ ยาสีฟันสำหรับฟันไวต่อความรู้สึก เช่น
✔️ Sensodyne
✔️ Colgate Sensitive Pro-Relief
✔️ Oral-B Sensitive
💡 สามารถใช้ร่วมกับน้ำยาบ้วนปากสำหรับฟันไวต่อความรู้สึก เพื่อช่วยลดอาการเสียวฟันได้
✅ 5. แปรงฟันให้ถูกวิธี แต่เบามือกว่าเดิม
หลังฟอกสีฟัน เคลือบฟันอาจไวต่อความรู้สึก ควรใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม และแปรงฟันเบาๆ
📌 วิธีที่ถูกต้อง:
✔️ ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม
✔️ หลีกเลี่ยงยาสีฟันที่มีเม็ดสครับหรือสารกัดกร่อนสูง
✔️ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
✅ 6. ใช้หลอดดูดเมื่อต้องดื่มเครื่องดื่มสีเข้ม
หากเลี่ยงไม่ได้ ต้องดื่มชา กาแฟ น้ำผลไม้สีเข้ม ควรใช้ หลอดดูด เพื่อลดการสัมผัสของของเหลวกับฟันโดยตรง
✅ 7. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันอื่นเพิ่มเติมทันทีหลังทำ
หลังจากฟอกสีฟันที่คลินิกแล้ว ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันอื่นๆ ซ้ำทันที เช่น
❌ เจลฟอกสีฟันที่บ้าน
❌ แผ่นแปะฟอกสีฟัน
📌 เพราะอาจทำให้ฟันระคายเคืองและไวต่อความรู้สึกมากขึ้น
✅ 8. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
💧 การดื่มน้ำเปล่ามากๆ ช่วยล้างคราบอาหารและป้องกันการสะสมของแบคทีเรียบนฟัน
✅ ควรดื่มน้ำเปล่าแทนชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีสี
✅ 9. นัดตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ
📅 ควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟันและขูดหินปูน เพื่อให้ฟันขาวอยู่ได้นานขึ้น
⏳ การฟอกสีฟันอยู่ได้นานแค่ไหน?
หากดูแลดี ฟันจะขาวอยู่ได้นาน 6 เดือน - 2 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินและการดูแลฟันของคุณ
📌 สรุป: การดูแลหลังการฟอกสีฟัน
✨ ดูแลฟันให้ดี ฟันขาวอยู่ได้นาน!
📞 สนใจฟอกสีฟันที่ คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่
ติดต่อเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมและนัดหมายได้เลย 😊
ฟอกสีฟันด้วยระบบ LED Cool light ลดอาการเสียวฟันหลังการฟอกสีฟัน
กล้ายืนยันว่าขาวจริง ไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์
ยังทำให้ฟันขาวยิ่งขึ้น เพราะสามารถฟอกสีฟันถึง 3 รอบในครั้งเดียว
ขอสงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่มัดจำค่าโปรโมชั่นมาก่อน
หากสนใจ ทักแชทหาแอดมินได้เลยนะคะ
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ฝากกดติดตาม tiktok : @banfunsuay
ไม่พลาดโปรโมชั่นและข่าวสารของคลินิก
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
โทร : 063-3436156
แชท : m.me/Banfunsuayclinic
เวปไซต์ : https://banfunsuay.com/
Instagram : https://www.instagram.com/ban_fun_suay/
เปิดวันอาทิตย์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่ 10.00-19.30 น. (หยุดทุกวันเสาร์)
แผนที่ : https://g.page/Banfunsuay
หมายเหตุ :
อัตราค่ารักษาอื่น ๆ ท่านสามารถโทรสอบถามได้จากทางคลินิก
อัตราค่ารักษาดังกล่าวเป็นการประเมินในเบื้องต้น
ค่าใช้จ่ายจริงทันตแพทย์จะเป็นผู้แจ้งให้ท่านทราบหลังจากทำการตรวจ ปรึกษาและวางแผนรักษาแล้ว
ราคานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า