ฟันเทียมถอดได้

ฟันปลอมหรือฟันเทียม แบบถอดได้: ประเภท, ข้อดี-ข้อเสีย, และการดูแลรักษา


ฟันปลอมแบบถอดได้ เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันบางซี่หรือฟันทั้งปาก โดยสามารถถอดออกและใส่กลับเข้าไปได้ตามต้องการ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟันปลอมชนิดนี้ให้ละเอียดขึ้น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม


1. ฟันปลอมแบบถอดได้คืออะไร? และเหมาะกับใคร?

ฟันปลอมแบบถอดได้เป็นอุปกรณ์ทางทันตกรรมที่ช่วยทดแทนฟันที่สูญเสียไป สามารถนำออกมาทำความสะอาดหรือปรับเปลี่ยนได้ง่าย โดยมักทำจากอะคริลิก โลหะ หรือวัสดุอื่น ๆ ที่เลียนแบบฟันธรรมชาติ


ใครเหมาะกับการทำฟันปลอมแบบถอดได้?

ฟันปลอมแบบถอดได้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดแทนฟันที่สูญเสียไปโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือเสียค่าใช้จ่ายสูงมากนัก มาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ฟันปลอมประเภทนี้


1. ผู้ที่สูญเสียฟันบางส่วนหรือทั้งปาก

✅ ผู้ที่สูญเสียฟันบางซี่ แต่ยังมีฟันธรรมชาติหลงเหลืออยู่ (ฟันปลอมบางส่วน)

✅ ผู้ที่ไม่มีฟันเหลืออยู่เลย (ฟันปลอมทั้งปาก)


2. ผู้ที่ไม่ต้องการทำรากฟันเทียมหรือสะพานฟัน

✅ ไม่อยากเจ็บตัวจากการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม

✅ ไม่ต้องการเสียฟันธรรมชาติที่ดีเพื่อทำสะพานฟัน

✅ งบประมาณจำกัด เพราะฟันปลอมแบบถอดได้มีราคาถูกกว่ารากฟันเทียม


3. ผู้สูงอายุที่มีปัญหาฟันและเหงือก

✅ ฟันแท้เริ่มหลุดหรือไม่แข็งแรง ทำให้การบดเคี้ยวอาหารลำบาก

✅ กระดูกขากรรไกรเริ่มฝ่อลง ทำให้ไม่สามารถฝังรากฟันเทียมได้


4. ผู้ที่ต้องการฟันปลอมชั่วคราวก่อนทำฟันปลอมถาวร

✅ ผู้ที่เพิ่งถอนฟันและต้องการใส่ฟันปลอมชั่วคราวในช่วงรอการรักษา

✅ ใช้เป็นตัวเลือกชั่วคราวก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม


5. ผู้ที่ต้องการคืนความสามารถในการบดเคี้ยวและพูดชัดขึ้น

✅ มีปัญหาในการเคี้ยวอาหาร เนื่องจากสูญเสียฟันหลายซี่

✅ มีปัญหาเรื่องการออกเสียง เนื่องจากไม่มีฟันหน้าหรือฟันหลัง


6. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูรอยยิ้มและความมั่นใจ

✅ ต้องการให้ฟันดูเป็นธรรมชาติและช่วยเสริมบุคลิก

✅ ลดความรู้สึกอายเมื่อต้องพูดคุยหรือยิ้ม


ใครบ้างที่อาจไม่เหมาะกับฟันปลอมแบบถอดได้?

❌ ผู้ที่ต้องการฟันปลอมที่ให้ความรู้สึกเหมือนฟันจริงมากที่สุด (อาจเหมาะกับรากฟันเทียมมากกว่า)

❌ ผู้ที่ไม่สามารถดูแลฟันปลอมได้ดี เนื่องจากต้องถอดออกมาทำความสะอาดเป็นประจำ

❌ ผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรบางมากและฟันปลอมอาจไม่ยึดเกาะได้ดี


2. ประเภทของฟันปลอมแบบถอดได้ : ตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณคืออะไร?

2.1 ฟันปลอมฐานพลาสติก (Acrylic Denture)

  • ลักษณะ: ทำจากพลาสติกอะคริลิก มีน้ำหนักเบา และราคาไม่สูง
  • ข้อดี: ราคาประหยัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟันปลอมชั่วคราว หรือผู้ที่มีปัญหาด้านงบประมาณ
  • ข้อเสีย: อาจไม่แข็งแรงเท่าฟันปลอมประเภทอื่น และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายเมื่อสวมใส่ในระยะยาว
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่สูญเสียฟันหลายซี่ และต้องการฟันปลอมราคาไม่แพง

2.2 ฟันปลอมฐานโลหะ (Metal Base Denture)

  • ลักษณะ: มีโครงสร้างเป็นโลหะที่แข็งแรง และเสริมฐานด้วยพลาสติกอะคริลิก
  • ข้อดี: แข็งแรงทนทานกว่าฟันปลอมฐานพลาสติก และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าฟันปลอมฐานพลาสติก และอาจมองเห็นตะขอโลหะ
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการฟันปลอมที่แข็งแรง และมีอายุการใช้งานยาวนาน

2.3 ฟันปลอมฐานยืดหยุ่น (Valplast Denture)

  • ลักษณะ: ทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีตะขอโลหะ
  • ข้อดี: สวมใส่สบาย เป็นธรรมชาติ และไม่ระคายเคืองเหงือก
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าฟันปลอมฐานพลาสติก และอาจต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการฟันปลอมที่สวยงาม และสวมใส่สบาย

2.4 ฟันปลอมทั้งปาก (Complete Denture)

  • ลักษณะ: ใช้ทดแทนฟันทั้งปาก ทั้งขากรรไกรบนและล่าง
  • ข้อดี: ช่วยให้ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก สามารถกลับมาบดเคี้ยวอาหาร และพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ข้อเสีย: อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายในช่วงแรก
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก

3. ข้อดีและข้อเสียของฟันปลอมแบบถอดได้

ข้อดี

✅ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรากฟันเทียมหรือสะพานฟัน

✅ สามารถปรับเปลี่ยนหรือซ่อมแซมได้ง่าย

✅ ช่วยคืนความสามารถในการบดเคี้ยวและพูดให้ใกล้เคียงฟันธรรมชาติ

✅ ไม่ต้องผ่าตัดหรือเจาะรากฟันเทียม

ข้อเสีย

❌ อาจรู้สึกไม่สบายในช่วงแรกที่ใส่

❌ ต้องถอดออกมาทำความสะอาดเป็นประจำ

❌ มีโอกาสหลวมและต้องปรับขนาดเมื่อเหงือกเปลี่ยนแปลง

❌ การบดเคี้ยวอาจไม่แข็งแรงเท่าฟันแท้หรือรากฟันเทียม


4. ขั้นตอนการทำฟันปลอมแบบถอดได้ที่ คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่

การทำฟันปลอมแบบถอดได้เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความละเอียดรอบคอบ เพื่อให้ฟันปลอมมีความพอดีและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้:

4.1 ปรึกษาทันตแพทย์และตรวจสุขภาพช่องปาก

  • ทันตแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพฟันและเหงือกของผู้ป่วย
  • ประเมินจำนวนฟันที่สูญเสียไปและสุขภาพของฟันที่เหลืออยู่ (ถ้ามี)
  • อาจต้องเอ็กซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างของกระดูกขากรรไกร และดูความสมบูรณ์ของฟัน
  • วางแผนการรักษาและแนะนำประเภทของฟันปลอมที่เหมาะสม

4.2 การพิมพ์ฟัน (Dental Impressions)

  • ทันตแพทย์จะใช้วัสดุพิมพ์ฟันเพื่อสร้างแบบจำลองของขากรรไกร
  • แบบจำลองนี้จะถูกใช้เป็นต้นแบบในการออกแบบฟันปลอม

4.3 การออกแบบและทดลองใส่ฟันปลอมชั่วคราว

  • ฟันปลอมต้นแบบจะถูกสร้างขึ้นจากวัสดุพลาสติกใสหรือขี้ผึ้ง
  • ทันตแพทย์จะนำฟันปลอมต้นแบบมาทดลองใส่เพื่อปรับแต่งขนาดและรูปร่าง
  • ตรวจสอบตำแหน่งของฟันและการสบฟันให้ถูกต้อง
  • หากพบปัญหา เช่น ฟันปลอมกดเหงือก หรือไม่พอดี ทันตแพทย์จะทำการแก้ไข

4.4 การผลิตฟันปลอมจริง

  • เมื่อต้นแบบฟันปลอมมีความพอดีแล้ว จะถูกนำไปผลิตเป็นฟันปลอมจริง
  • กระบวนการผลิตอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประเภทของฟันปลอม
  • ฟันปลอมจริงอาจทำจากอะคริลิก โลหะ หรือเซรามิก เพื่อให้มีความแข็งแรงและดูเป็นธรรมชาติ

4.5 ทดลองใส่ฟันปลอมจริง

  • ทันตแพทย์จะให้ผู้ป่วยทดลองใส่ฟันปลอมจริง และตรวจสอบความพอดี
  • หากมีจุดที่กดเหงือกหรือรู้สึกไม่สบาย ทันตแพทย์จะทำการปรับแต่ง

4.6 การให้คำแนะนำการใช้งานและการดูแลรักษา

  • ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีใส่และถอดฟันปลอมอย่างถูกต้อง
  • อธิบายวิธีทำความสะอาดและเก็บรักษาฟันปลอม
  • แนะนำให้มาพบแพทย์เป็นระยะเพื่อตรวจเช็กความพอดีของฟันปลอม

4.7 การนัดตรวจติดตามผล

  • ผู้ป่วยควรกลับมาพบทันตแพทย์ภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากใส่ฟันปลอม
  • ตรวจสอบว่าฟันปลอมยังคงพอดี และไม่มีอาการเจ็บหรือระคายเคือง
  • หากพบปัญหา เช่น ฟันปลอมหลวม หรือบดเคี้ยวไม่ดี ทันตแพทย์จะทำการแก้ไข

5. การดูแลรักษาฟันปลอมแบบถอดได้

5.1 วิธีทำความสะอาดฟันปลอม

  • ถอดออกมาล้างหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง
  • ใช้แปรงขนนุ่มและน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม
  • ห้ามใช้ยาสีฟันธรรมดาเพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน

5.2 การเก็บรักษาฟันปลอม

  • แช่ฟันปลอมในน้ำสะอาดหรือน้ำยาสำหรับฟันปลอมก่อนนอน
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อน เพราะอาจทำให้ฟันปลอมบิดเบี้ยว

5.3 ควรพบหมอฟันเมื่อไหร่?

  • เมื่อฟันปลอมเริ่มหลวม ทำให้เคี้ยวอาหารลำบาก
  • หากมีอาการเจ็บ หรือระคายเคืองเหงือก
  • ควรตรวจเช็กฟันปลอมเป็นประจำทุก 6 เดือน


6. เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างฟันปลอมถอดได้และฟันปลอมติดแน่น



7. ควรเลือกแบบไหน?

ควรเลือกฟันปลอมแบบถอดได้ ถ้าคุณ:

  • ต้องการทางเลือกที่ประหยัดกว่า
  • ไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด
  • ต้องการใช้ฟันปลอมชั่วคราวก่อนทำรากฟันเทียม

ควรเลือกฟันปลอมแบบติดแน่น ถ้าคุณ:

  • ต้องการฟันปลอมที่ให้ความรู้สึกเหมือนฟันจริงมากที่สุด
  • ต้องการความสะดวกในการใช้งานระยะยาว
  • มีงบประมาณเพียงพอสำหรับรากฟันเทียมหรือสะพานฟัน


8. ฟันปลอมแบบถอดได้ VS รากฟันเทียม


9. ค่าใช้จ่ายของฟันปลอมแบบถอดได้ที่คลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่

ราคาของฟันปลอมแบบถอดได้ขึ้นอยู่กับวัสดุและประเภทที่เลือก

  • ฟันปลอมบางส่วน ฐานพลาสติกแบบแข็ง(Acrylic) ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท
  • ฟันปลอมบางส่วน ฐานพลาสติกแบบนิ่ม(Valplast) ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท
  • ฟันปลอมบางส่วน ฐานโลหะ(Metal) ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
  • ฟันปลอมทั้งปากฐานอะคริลิก ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 9,000 บาท
  • ฟันปลอมทั้งปากฐานนิ่ม ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 15,000 บาท
  • ฟันปลอมโลหะ อาจมีราคาสูงกว่าอะคริลิก
  • เติมฟัน ซี่ละ 300 บาท
  • ตะขอโละหะ ตำแหน่งละ 300 บาท

สรุป

ฟันปลอมแบบถอดได้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูฟันที่หายไปโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่อาจต้องแลกมากับความไม่สะดวกสบายบางประการ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และสภาพช่องปากของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ 😊


สนใจทำฟันปลอม

📞 ติดต่อคลินิกบ้านฟันสวย เชียงใหม่ banfunsuay.com เพื่อรับคำปรึกษาฟรี!


☎️โทร : 063-3436156

💬แชท : m.me/Banfunsuayclinic

🌎เวปไซต์ : https://banfunsuay.com/

📷 Instagram : https://www.instagram.com/ban_fun_suay/

เปิดวันอาทิตย์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่ 10.00-19.30 น. (หยุดทุกวันเสาร์)

📍แผนที่ : https://g.page/Banfunsuay

หมายเหตุ :

อัตราค่ารักษาอื่น ๆ ท่านสามารถโทรสอบถามได้จากทางคลินิก

อัตราค่ารักษาดังกล่าวเป็นการประเมินในเบื้องต้น

ค่าใช้จ่ายจริงทันตแพทย์จะเป็นผู้แจ้งให้ท่านทราบหลังจากทำการตรวจ ปรึกษาและวางแผนรักษาแล้ว

ราคานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า


รีวิว

ติดต่อเรา

คลินิกบ้านฟันสวย

เชียงใหม่

เบอร์โทร

063-343-6156

ที่อยู่

46/4 ถนนท้ายวัง ช้างม่อย เมือง เชียงใหม่ 50300

เวลาทำการ

10:00 - 19:30 (ทุกวัน)